กลุ่มความสงบสุขของสังคมเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายสังกัดมาก รวมทั้งมีภารกิจหน้าที่ที่แตกต่างกันต่างจากกลุ่มอื่นข้างต้น ทำให้การติดตามความก้าวหน้าของกลุ่มค่อนข้างทำได้ยาก

ทบวงมหาวิทยาลัย

         ได้รายงานความก้าวหน้าของสถาบันการศึกษาสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 25 แห่ง แต่เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับค่อนข้างน้อย ภาพรวมความก้าวหน้าของทบวงมหาวิทยาลัยจึงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำประมาณร้อยละ 47 เท่านั้น นอกจากนั้นงบประมาณที่ได้ขอไว้จำนวนรวมทั้งสิ้น 201,786,095 ล้านบาท ก็ได้รับอนุมัติเพียง 7,600,000 บาทเท่านั้น

กระทรวงกลาโหม

         ได้ดำเนินการรวบรวมระบบงานต่างๆ ของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมและรายงานความก้าวหน้าเป็นภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 80 ซึ่งมีหน่วยงานประกอบด้วย

         1. สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
         2. กองบัญชาการทหารสูงสุด
         3. กองทัพบก
         4. กองทัพเรือ
         5. กองทัพอากาศ
         6. องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
         7. องค์การแก้ว
         8. องค์การแบตเตอรี่

         หน่วยงานทั้งหมดได้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขระบบงานตามขั้นตอนมาตรฐานที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกัน และกระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขแล้วรวมทั้งสิ้น 82 ระบบงาน ในทุกหน่วยงานข้างต้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพอากาศมีซอฟต์แวร์ที่ต้องตรวจสอบและแก้ไขประมาณ 573,432 บรรทัด และมีระบบ Embedded system รวมทั้งสิ้นประมาณ 59 ระบบงาน ทั้งนี้งบประมาณที่ต้องการสำหรับการแก้ไขปัญหา ทั้งหมดประมาณ 319,041,259.43 บาท ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนสำรองฉุกเฉิน ซึ่งมีจำนวน 18 แผน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

         รายงานว่ามีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 7 ระบบ และมีระบบอื่นอีกอย่างละหนึ่งระบบ ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดแล้วเสร็จไปแล้ว จำนวน 4 ระบบ ได้แก่ ระบบตรวจลายนิ้วมืออัตโนมัติ (AFIS) ระบบอุปกรณ์การบิน และระบบอุปกรณ์การสื่อสาร เป็นต้น ความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 81 สำหรับระบบที่เหลือกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการแก้ไข ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จคาดว่าจะประมาณเดือนธันวาคม 2542 โดยใช้งบประมาณไป 15.62 ล้านบาท และกำลังคน 141 คน

การประปานครหลวง

         รายงานว่ามีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวด และระบบที่มีความสำคัญรองลงไปจำนวน 1 และ 9 ระบบ ตามลำดับ ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขในระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดเสร็จแล้ว 100% และในระบบที่มีความสำคัญรองลงไปจำนวน 4 ระบบ คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับร้อยละ 95 คาดว่าจะสามารถทดสอบระบบที่ได้มีการแก้ไขแล้วในเดือนสิงหาคม 2542 นี้ งบประมาณที่ใช้ประมาณ 8.5 ล้านบาท

การประปาส่วนภูมิภาค

         มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวด ได้แก่ ระบบผลิตและระบบสูบจ่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา สำหรับระบบที่มีความสำคัญมาก จะเป็นระบบประมวลผลระบบงานจัดเก็บรายได้ของสำนักงานเป็นหลัก ซึ่งได้ดำเนินการทดสอบแล้วไม่พบปัญหา และรายงานการทดสอบเมื่อเดือนธันวาคม 2541 แล้ว สำหรับระบบที่มีความสำคัญรองลงไปมีจำนวน 8 ระบบ โดยจะเป็นระบบประมวลผลระบบงานของสำนักงานเป็นหลักซึ่งเกือบทั้งหมดได้แก้ไขแล้วเสร็จ เหลือเพียงหนึ่งระบบที่จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2542 ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนสำรองฉุกเฉินซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2542

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

         ได้รายงานภาพรวมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงซึ่งประกอบไปด้วยสำนักงานปลัดกระทรวง กรมชลประทาน กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมป่าไม้ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสงเคราะห์การทำสวนยาง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

         ระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดของกระทรวงเกษตรฯ มี 4 ระบบ ได้แก่ เครื่องบิน ระบบควบคุมการระบายของเขื่อน เรือของกรมประมง และเครื่องมือทางการแพทย์ของโรงพยาบาลกรมชลประทาน ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วทั้งหมดไม่พบปัญหา Y2K

         สำหรับระบบที่มีความสำคัญมาก และสำคัญรองลงไป มี 69 และ 118 ระบบ ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงระบบเครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จเป็นร้อยละ 60 และ 80 ตามลำดับ โดยมีค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะต้องใช้รวมทั้งสิ้น 87.49 ล้านบาท

กรุงเทพมหานคร

         มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวด ระบบที่มีความสำคัญมาก และระบบที่มีความสำคัญรองลงไปจำนวน 8, 4 และ 4 ระบบ ตามลำดับ ตัวอย่างของระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดได้แก่ ระบบทะเบียนราษฎร์และบัตรประชาชน ระบบ Image processing เป็นต้น สำหรับระบบควบคุมจราจรอัตโนมัติ (Area Traffic Control หรือ ATC) ได้จัดอยู่ในระบบที่มีความสำคัญรองลงไป

         ความก้าวหน้าของการแก้ไขระบบเหล่านี้เท่ากับร้อยละ 68, 73 และ 57 ตามลำดับโดยคาดว่าจะได้ดำเนินการแก้ไขและทดสอบระบบทั้งหมดแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2542 โดยใช้งบประมาณในการแก้ไขจำนวน 2,480,710 บาท

กระทรวงสาธารณสุข