กฎหมายจำกัดวงรับผิดชอบกรณี Y2K กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาผลักดัน

         สภาผู้แทนราษฎร์สหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายซึ่งกำหนดกรอบการฟ้องร้องและจำกัดวงค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาดในปี ค.ศ. 2000 หรือที่เรียกว่า Y2K Bill โดยได้รับชัยชนะโดยคะแนนเสียง 236 ต่อ 190 ในขณะที่ทำเนียบขาวขู่ที่จะออกเสียงยับยั้ง

         ผู้ที่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้กล่าวว่า บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะด้านเกี่ยวกับเทคโนโลยีชั้นสูงต้องการกฎหมายเพื่อใช้ป้องกันตนเองจากความ-หายนะทางการเงินในต้นปีหน้า ในขณะที่ผู้คัดค้านเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นอุปสรรคขวางกั้นผู้บริโภคจากการฟื้นตัวจากความเสียหายทางเศรษฐกิจอันสืบเนื่องจากปัญหา Y2K

         กฎหมายดังกล่าวมีการผลักดันกันมาโดยตลอดจากกลุ่มแนวร่วมซึ่งเป็นกลุ่ม Lobby ที่ทรงพลังตั้งแต่บริษัทเทคโนโลยีชั้นสูง สภาหอการค้าสหรัฐฯ ตลอดจนสมาคมนักอุตสาหกรรมแห่งชาติ เป็นต้น ขณะเดียวกันประเด็นการอภิปรายในเรื่องนี้ได้ขยายวงไปสู่การเมืองในการรณรงค์เลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่เมื่อพรรคริพับลิกันและนัก Lobbyists พยายามจะใช้ประเด็น Y2K เพื่อบังคับให้รองประธานาธิบดีอัล กอร์ เลือกระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 2 กลุ่มคือ กลุ่มนักกฎหมายที่ว่าความ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการจำกัดจำนวนเงินที่ต้องรับผิดชอบ และกลุ่มบริษัทในแถบ Silicon Valley ซึ่งต้องการจะหลีกเลี่ยงคดีฟ้องร้องที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง

         ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเชื่อว่าธุรกิจขนาดเล็กและกลางจะเริ่มต้นแก้ไขเรื่อง Y2K ล่าช้าหรือประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าเป็นจริง ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลต่อการต้องซ่อมแซมอุปกรณ์ Computer Software และทำให้ไม่สามารถดำเนินงานให้เป็นไปตามสัญญา

         กฎหมายฉบับนี้สนับสนุนให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาฟ้องร้องกันนอกศาลและตั้งกรอบกฎหมายใหม่เพื่อแก้ปัญหา Y2K ในศาลโดยครอบคลุมถึง

• กำหนดให้มีการแจ้งปัญหาล่วงหน้า เรียกว่า Pretrial Notice ทั้งนี้โดยบริษัท หรือบุคคลที่ได้รับผลเสียหายจากข้อบกพร่องจากกรณี Y2K ต้องให้เวลาแก่บริษัทคอมพิวเตอร์สูงสุด 90 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาของตน หากเกินเวลานี้ก็จะสามารถฟ้องร้องได้
• ค่าเสียหายกำหนดกรอบสูงสุดไว้ที่  250,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือชดเชย 3 เท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นโดยขึ้นกับว่าอย่างไหนมากกว่ากัน
• กำหนดขอบเขตของความรับผิดชอบที่ต้องชดใช้แก่จำเลยในคดีแพ่งแต่ละคนที่มีส่วนให้เกิดความเสียหาย
• อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีคำร้องส่วนใหญ่ในศาลสหพันธ์ (Federal) ไม่ใช่ในศาลของรัฐ (State)
• จำกัดความรับผิดชอบที่ต้องชดใช้ของเจ้าหน้าที่และผู้จัดการของบริษัท (Corporate Director)

         อย่างไรก็ตามแม้สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ จะให้ความเห็นชอบกับร่างกฎหมายดังกล่าว แต่เมื่อมีการนำเสนอวุฒิสภาในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา คืออีกหนึ่งอาทิตย์ก่อน ปรากฏว่าวุฒิสภายังไม่ผ่านร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนนเสียง 53 ต่อ 46