ปัญหาปี
ค.ศ. 2000 มีความรุนแรงเพียงไร
ปัญหาปี 2000 เลวร้ายเพียงไร
ประเด็นสำคัญอยู่ที่โปรแกรมและข้อมูลที่เก็บไว้ในรูป
YY MM DD จากการสำรวจขั้นต้นถึงความเลวร้ายของปัญหาพบว่า
ปัญหานี้ได้เริ่มมองเห็นกันแล้วตั้งแต่ปี
1990 โปรแกรมที่เขียนด้วยโคบอลในอดีตก่อนปี
1990 ส่วนใหญ่จะมีปัญหาทั้งหมด งานธุรกิจที่ใช้โปรแกรมที่เขียนในเมนเฟรม
ส่วนใหญ่ยังใช้โปรแกรมโคบอลบางโปรแกรมมีการพัฒนาต่อเนื่องกันมา
บางบริษัทมีโปรแกรมที่เขียนต่อกันมาจนยากที่จะหาซอร์สโค้ดได้
เพราะงานเหล่านั้นทำขึ้นในหลายระดับและหลายคน
จากการที่มีข้อมูลขั้นต้นพบว่า
ผู้เขียนภาษาโคบอลในยุคที่ใช้กับเมนเฟรมช่วงแรกมีกว่า
900,000 คน และเขียนผลงานเป็นโปรแกรมมากกว่า
180 พันล้านบรรทัด โปรแกรมเหล่านี้ยังมีใช้งานกระจัดกระจายในงานประยุกต์ต่าง
ๆ มากมาย และเป็นสิ่งที่ยุ่งยากต่อการแก้ไข
การแก้ไขไม่สามารถกระทำแบบอัตโนมัติได้ทั้งหมด
หรือเมื่อกระทำก็ยังมีส่วนที่ไม่แน่ใจอยู่อีกมาก
ผู้ดูแลซอฟต์แวร์หลายแห่งเริ่มตระหนักถึงปัญหานี้
การบำรุงรักษาโปรแกรมในระยะเวลายาวนาน
และให้ทำงานต่อเนื่องผ่านวันที่
31 ธันวาคม 1999 เป็นเรื่องที่จะต้องลงทุนในการแก้ปัญหากันครั้งใหญ่
และอาจเกี่ยวข้องกับความสำคัญของธุรกิจ
ในการแก้ไขปัญหาในเรื่อง ปี 2000
อาจสร้างปัญหาบางอย่างตามมา
เพราะในการพัฒนาโปรแกรม หลายคนคงเคยเห็นปัญหาแล้วว่า
งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นงานที่เกี่ยวโยงกัน
และมีความซับซ้อนมาก โอกาสที่จะกระทบในเรื่องปัญหาอื่นย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
เนื่องจากข้อมูลที่เก็บจำนวนมาก
เก็บไว้ในรูปแบบตัวเลข ค.ศ. สองหลัก
รายการย่อยของธนาคารที่ดำเนินกิจการอยู่ทุกวันเก็บด้วยเลขสองหลัก
เพราะมีรายการข้อมูลมากจึงต้องเก็บแบบนี้
บริษัทประกันภัยเก็บข้อมูลกรมธรรม์ของลูกค้าทั้งหมดไว้ในคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเลข
ค.ศ. สองหลักเช่นกัน นอกจากธุรกิจทางด้านการเงินการธนาคารแล้ว
บริษัทที่ดำเนินการทางด้านเครดิต
เช่น บริษัทเครดิตการ์ดก็ดำเนินการด้วยการเก็บข้อมูลตัวเลข
ค.ศ. เพียงสองหลัก วันหมดอายุบนบัตรเครดิตยังคงใช้ตัวเลข
ค.ศ. สองหลัก นั่นคือ หมดอายุไปเมื่อสิ้นสุดเดือน
12 ปี 99 ปริมาณการใช้รายการบัตรเครดิตแต่ละวันมีมากมายมหาศาล