กระทรวงการคลัง
ได้รายงานในภาพรวมทั้งส่วนราชการ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดได้แก่ ธนาคารที่สังกัดกระทรวงการคลัง
ส่วนราชการที่ได้รายงานประกอบด้วยกรมปัญชีกลาง กรมสรรพากร และกรมศุลกากร
กรมบัญชีกลาง รายงานว่ามีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 6 ระบบ ซึ่งเป็นระบบประมวลผลข้อมูลทั้งสิ้นปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขระบบเหล่านั้น
กรมสรรพากร มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวด 3 ระบบ ซึ่งเป็นระบบประมวลผลข้อมูลทั้งสิ้นเช่นกัน ปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขและทดสอบแล้วเสร็จไปแล้วจำนวน 2 ระบบ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2542 ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการทดสอบ
กรมศุลกากร รายงานว่ามีระบบที่มีความสำคัญมาก คือ ระบบการนำสินค้าเข้าและการส่งสินค้าออก โดยระบบการส่งสินค้าออกได้มีการทดสอบและติดตั้งใช้งานแล้ว ณ จุดต่างๆ สำหรับระบบงานด้านการนำเข้ากำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไขและทดสอบ
สำหรับระบบอื่นๆ กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบและคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2542 นี้
ส่วนที่เป็นธนาคารของรัฐมีรายงานจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ธนาคารกรุงไทย มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 6 ระบบที่เป็นระบบประมวลผลข้อมูลทั้งสิ้น โดยมีจำนวนโปรแกรมในระบบทั้งสิ้นจำนวน 17,039 โปรแกรม และปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จทั้งหมด
โดยได้มีการทดสอบร่วมกับธนาคารอื่นๆไปเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2542 และปัจจุบันได้พัฒนาแผนสำรองฉุกเฉินแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 50
ธนาคารออมสิน มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 16 ระบบ และได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด ได้มีการทดสอบระดับต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเดือนกุมภาพันธ์ เมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน 2542 โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น
197,584,249.30 บาท และบุคลากรที่เข้าร่วมการแก้ไขประมาณ 568 คน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 7 ระบบ และได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด ได้มีการทดสอบระหว่างระบบเมื่อวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ 2542 โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 26.5 ล้านบาท
และบุคลากรที่เข้าร่วมการแก้ไขประมาณ 30 คน
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 6 ระบบ และได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมดเช่นเดียวกัน ได้มีการทดสอบระหว่างระบบเมื่อวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ 2542 โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น
100 ล้านบาท และบุคลากรที่เข้าร่วมการแก้ไขประมาณ 50 คน
สำหรับ สำนักงานสลากกินแบ่งฯ นั้น มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดจำนวน 3 ระบบ และได้ดำเนินการแก้ไขโดยการจัดหาระบบใหม่ทั้งหมด โดยใช้งบประมาณรวม 51,950,000 บาท และใช้บุคลากรในการแก้ไขรวม 25 คน ขณะนี้ระบบกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบและ ติดตั้ง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดใน 9 กลุ่มงาน 74 ระบบ และมีระบบ Embedded system จำนวน 14 ระบบ การแก้ไขได้ดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์รวมทั้งได้ดำเนินการทดสอบแผนสำรองฉุกเฉินแล้ว ทั้งนี้โดยใช้บุคลากรภายใน ธปท. ในการแก้ไขปัญหาทั้งสิ้น
และใช้เงินงบประมาณเพื่อการแก้ไขปัญหารวม 12.4 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
มีระบบที่มีปัญหาระดับความสำคัญยิ่งยวด 3 ระบบ ระบบที่มีความสำคัญมากจำนวน 1 ระบบ และระบบที่มีความสำคัญรองลงไปจำนวน 2 ระบบ เช่น ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ ระบบชำระราคาและส่งมอบ ฯลฯ เป็นต้น
ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ได้ดำเนินการแก้ไขระบบงานที่มีปัญหาเหล่านี้เสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาแผนฉุกเฉิน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและทดสอบได้ในเดือนตุลาคม 2542 สำหรับงบประมาณที่ใช้เพื่อการแก้ไขเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 40.46 ล้านบาท
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับหน่วยงานอื่น รายงานว่ามีเพียงระบบงานสำนักงานที่ไม่มีความสำคัญมาก และได้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขแล้วเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว
กรมการประกันภัย
ไม่มีระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวด สำหรับระบบที่มีความสำคัญมากเป็นระบบที่อยู่ในระหว่างการรับประกัน ซึ่งบริษัทผู้ขายได้ดำเนินการแก้ไขให้และจะทดสอบได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
สมาคมประกันวินาศภัย
ได้รายงานความก้าวหน้าของบริษัทประกันภัยที่เป็นสมาชิกของสมาคมจำนวน 64 บริษัท ซึ่งมีจำนวน 55 บริษัทที่รายงานว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จครบทุกขั้นตอน ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าสูงกว่าร้อยละ 90 แล้ว
สมาคมประกันชีวิตไทย
ได้รายงานความก้าวหน้าของบริษัทประกันภัยที่เป็นสมาชิกของสมาคมจำนวน 29 บริษัท ซึ่งมีจำนวน 13 บริษัทที่รายงานว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จครบทุกขั้นตอน ส่วนที่เหลือมีความก้าวหน้าตั้งแต่ร้อยละ 60, 80
และ 90 แล้ว และยังไม่ได้รับรายงานอีกจำนวน 7 บริษัท
สำหรับ ธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานกำกับดูแล ก็ได้รับรายงานว่าดำเนินการแก้ไขและทดสอบร่วมกันทุกธนาคารแล้ว เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2542 ที่ผ่านมา
กล่าวโดยสรุป กลุ่มการเงิน การธนาคารและการประกันภัย เป็นกลุ่มที่มีความก้าวหน้าของการดำเนินงานแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ปี ค.ศ. 2000 ในระดับที่มีความเชื่อมั่นที่สูงเช่นเดียวกับกลุ่มไฟฟ้าและพลังงาน